เส้นทางแห่งโชคชะตา - ตอนที่ 72
เส้นทางแห่งโชคชะตา เล่ม 1 ตอนที่ 72: ปราสาทราชาแห่งผี (7)
บนบัลลังก์ มีราชาแห่งผีหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวที่สูง 2 เมตรนั่งอยู่ด้านข้างของเก้าอี้นั้นมีค้อนขนาดใหญ่วางไว้ตรงนั้นทั้งหูและจมูกนั้นมีวงแหวนขนาดเท่าจานห้อยอยู่จนน่ากลัวพร้อมกับขวานด้ามไม้ติดอยู่ตรงเอวอีกด้วย
“พวกเจ้าคือใครกัน ? กล้าดียังไงที่บุกรุกเข้ามาในอาณาเขตของข้า ? ! ” ราชาแห่งผีจับค้อนขึ้นมาด้วยมือข้างหนึ่ง น้ําเสียงของมันนั้นดังก้องราวกับว่าเป็นฟ้าผ่าในตอนกลางวันแสก ๆ ทําให้แก้วหูของผู้ที่ได้ยินนั้นถึงกับต้องสั่นสะเทือน
“ใครก็ตามที่รุกล้ําอาณาเขตของข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตคนผู้นั้นจะต้องตาย !” โดยไม่พูดพร่ําทําเพลงใด ๆ ขวานไม้ขนาดใหญ่ที่เอวของราชาแห่งผีก็บินออกมาพร้อมกับเสียงดังอื้ออึงขณะที่มันตัดอากาศมันเปล่งแสงสีขาวออกมาพร้อมกับพุ่งตรงไปทางมู่หรงเสี่ยวเทียนทันที
ชื่อเฟิง สายฟ้าปาฉี และสายฟ้าซวนที่ยืนอยู่ด้านหน้านั้นก็เข้าปะทะเป็นกลุ่มแรก จื่อเฟิงรีบนําหอกของเขาออกมา ส่วนสายฟ้าปาฉีก็ใช้ดาบยักษ์เช่นเดียวกันกับสายฟ้าซวน พวกเขารวมพลังกันเพื่อต้านการพุ่งเข้ามาของขวานที่รุนแรงของราชาแห่งผีจนเกิด เสียงดังสนั่น แม้ว่าพวกเขานั้นจะสามารถต้านการโจมตีของมันได้ แต่แรงกระเพื่อมอันทรงพลังก็ทําให้คนทั้งสามต้องถูกกระแทกจนลอยออกไป เป็นสายฟ้าซวนที่โชคร้าย เขาลอยไปติดกําแพงจนหมดสติพลังชีวิตของเขาหายไปมากกว่าสองในสามส่วน และความรุนแรงของขวานนั้นก็ทําให้พลังชีวิตของทุกคนลดลงไปมากเช่นกัน
ขวานนั้นไม่ได้กระทบกับพื้นแต่อย่างใหญ่ มันลอยไปเป็นวงกลมในอากาศจากนั้นก็บินกลับไปหาราชาแห่งผี
“ตอนนี้แหละ ! ใช้งานโล่ป้องกันเดี๋ยวนี้” มู่หรงเสี่ยวเทียนตะโกนเสียงดัง จากนั้นเขาก็ใช้สกิลศิลาใต้พิภพปล่อยก้อนหินขนาดใหญ่พุ่งออกไป แต่มันก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับราชาแห่งนี้ได้เลย ขณะนี้สายฟ้าโพได้ใช้สกิลโล่สายฟ้าที่สามารถใช้ได้เพียงวันละครั้งเท่านั้น แม้แต่การต่อสู้กับผู้พิทักษ์ประตูนรก ทุก ๆ คนก็ยังห้ามไม่ให้เขาใช้ แม้แต่ตอนที่เผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่อันตรายหรือแม้แต่การเผชิญหน้ากับเหล่าค้างคาวก็ตาม เพราะสกิลนี้เวลาคูลดาวน์ของมันนานมาก จะต้องใช้ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดท่านั้นและสถานการณ์ที่ว่านั้นนั่นก็คือตอนนี้ ! พละกําลังของราชาแห่งผีนั้นน่ากลัวเป็นอย่างมาก ดังนั้นมันถึงเวลาที่พวกเขาจะ ต้องพยายามงัดไม้ตายที่มีทั้งหมดออกมาใช้
“โล่สายฟ้า จงเปิดออก !” สายฟ้าโพตะโกนขึ้นมาจากนั้นแสงวงกลมก็เปล่งประกายล้อมรอบร่างของทุกคนที่ยืนอยู่ที่นั่น
“ตูม ! ” ขวานของราชาห่างผีกระแทกลงมาอีกครั้ง แต่ทว่ามันก็ไม่ได้ผลแต่อย่างใด ดังนั้นทุกคนจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมา
“อืม ช่างน่าสนใจจริง ๆ !” ราชาแห่งผียิ้มออกมา จากนั้นมันก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับคว้าเอาค้อนขนาดยักษ์และเดินมุ่งหน้าเข้ามาหาหมู่หรงเสี่ยวเทียนกับคนอื่น ๆ อย่างหนักแน่น
“พี่เทียน เราไม่สามารถเจาะพลังป้องกันของมันได้เลย” วูเฟิงรู้สึกกังวลมาก ทั้งลูกไฟและการโจมตีที่คล่องแคล่วของมู่หรงเสี่ยวเทียนอย่างต่อเนื่องไม่สามารถทําความเสียหายใด ๆ ให้กับราชาแห่งนี้ได้เลยแม้แต่น้อย
“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่เจ้าต้องการที่จะทําร้ายข้าด้วยเช่นนั้นรี 2” ราชาแห่งผีเดินตรงมาที่พวกเขาสองสามก้าวจากนั้นก็ใช้ค้อนยักษ์ที่อยู่ในมือของมันทุบลงไปบนโล่ป้องกันของพวกเขา
กระแสอากาศจาง ๆ ปรากฏขึ้นมาจากการที่ค้อนยักษ์พุ่งแหวกอากาศลงมา ราวกับว่าเป็นพายุเฮอริเคนที่ก่อตัวขึ้นกลางท้องทะเลคลื่นพลังความรุนแรงของมันราวกับพายุ เสียงที่ทําให้ทั้งสวรรค์และโลกต้องสั่นสะเทือนเกิดขึ้นมาหลังจากที่ค้อนยักษ์ปะทะเข้ากับโล่สายฟ้าแทบจะทันที
“ตูม ! ” รอยแตกร้าวจํานวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นที่โล่สายฟ้ามันดูราวกับว่าเป็นกระจกแก้วที่กําลังแตกร้าว
“ระดับของการป้องกันลดลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และฉันเองก็สามารถต้านทานการโจมตีของมันได้อีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น” สายฟ้าโพตะโกนออกมาและใบหน้าของเขาก็ถอดสี
“ราชาหมาป่าโลหิตกลายพันธุ์ จงออกมาเดี๋ยวนี้ !”หยางซ่งผู้ซึ่งดูตลกขบขันไม่เอาจริงเอาจังตลอดเวลา ณในเวลานี้เขากลับมาเป็นผู้ที่เอาจริงเอาจังเป็นอย่างมาก เขาได้ทําการศึกษาเกี่ยวกับราชาหมาป่าโลหิตกลายพันธุ์มาตั้งแต่วันแรกที่เขาได้รับมัน ในฐานะซัมมอนเนอร์นั้น เขารู้เป็นอย่างดีว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นขึ้นอยู่กับสัตว์เลี้ยง ดังนั้น ในตอนนั้นเขาจึงเริ่มทําการฝึกฝนสัตว์เลี้ยงของเขาอย่างเงียบ ๆ และตอนนี้ก็เป็นเวลาที่จะนํามันออกมาใช้งานแล้ว
“อ้ววว !!” ด้วยเสียงเห่าหอนที่ดังสนั่นและภาคภูมิใจราชาหมาปาโลหิตกลายพันธุ์ก็ปรากฏตัวขึ้นมา เท้าของมันทั้งสี่ข้างเป็นสีขาวราวกับว่าใส่ถุงเท้าทุกข้าง ร่างกายของมันนั้นแดงก่ําและมีรัศมีของราชาเปล่งออกมา มันยืนอย่างองอาจ ทุกคนอดไม่ได้ที่ จะถอนหายใจออกมาอย่างภูมิใจคงไม่มีใครจะคิดได้ว่าหยางซ่งเด็กดื้อนั้นจะทําการฝึกฝนสัตว์เลี้ยงจนมีเลเวลถึง 20 แล้วในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนี้ ตอนนี้สัตว์เลี้ยงของเขาก็เติบโตได้ระดับหนึ่งแล้ว
“ฆ่ามัน ! ” หยางซ่งพูดออกมาและชี้ไปที่ราชาแห่งผีราวกับว่าเขานั้นเป็นผู้สั่งการ
“อ้ววว ! ” หมาป่าโลหิตกลายพันธุ์หอนดังขึ้นมาอีกครั้งจากนั้นมันก็แยกเขี้ยวและกระโจนเข้าไปที่ร่างของราชาแห่งผีขณะที่มันวิ่งอยู่นั้นมันก็สร้างลมแรงและเกิดเป็นสายฟ้าขึ้นมารอบ ๆ ตัวมันพุ่งเข้าไปและใช้เล็บอันแหลมคมซึ่งกําลังเปล่งประกายเป็น สีน้ําเงินตะปบและข่วนลงไปบนร่างของราชาแห่งผีและผลที่ได้คือทําให้อีกฝ่ายมีแผลฉกรรพ์เกิดขึ้น ซึ่งสร้างความเสียหายได้มากเลยทีเดียว
“อื้อหือ ! ” ทุกคนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
“อื้อเฟิง ซวน พวกเราสามคนขึ้นไปตรงนั้นเพื่อช่วยราชาหมาป่าโลหิตจัดการกับราชาแห่งผีกันเถอะ วูเฟิง ปาฉีและสายฟ้าโพพวกนายทั้งสามคอยปกป้องอีกหมิงซินกับกวยหลงนะ” มู่หรงเสี่ยวเทียนสั่งการอย่างชัดเจนเนื่องจากว่าการโจมตีด้วยเวทมนตร์ นั้นสร้างความเสียหายไม่ได้เลย ดังนั้นเขาจึงต้องใช้การโจมตีทางกายภาพรูเฟิงเป็นนักเวทย์มันไร้ประโยชน์ที่จะให้เขาออกไปสู้ส่วนสายฟ้าปาณีนั้นก็เชื่องช้าเกินไป การที่ส่งเธอออกไปมันก็คงจะไม่ทําให้เธอสามารถต่อกรกับราชาแห่งผีได้อย่างแน่นอน สายฟ้าโพ ก็ไม่สามารถออกห่างจากคนอื่นได้เนื่องจากเขามีโล่สายฟ้าอยู่ ดัง นั้นการแบ่งหน้าที่แบบนี้จึงสมเหตุสมผลมากที่สุด
การใช้สกิลแฟนธ่อมดริฟของมู่หรงเสี่ยวเทียนนั้นถึงขีดจํากัดแล้วดังนั้นเขาจึงต้องใช้เพียงแค่กรงเล็บเหล็กกระชากวิญญาณเพื่อต่อสู้กับราชาแห่งผีส่วนดาราดังจือเฟิงสายฟ้าซวนนั้นก็จะใช้สกิล ต่าง ๆ เพื่อสนับสนุน
หอกอัศวินของจื่อเฟิงที่มีความรวดเร็วนั้นเป็นเหมือนกุญแจสํา คัญที่สามารถสร้างความเสียหายแก่ราชาแห่งผีได้เป็นอย่างมากแต่ละดอกที่เขาแทงไปนั้นจะเกิดเป็นดอกบัวยบานขึ้นมาทันทีเก้าดอกจากความรวดเร็วของสายฟ้าซวนก็ทําให้ดาบทั้งหกปรากฏขึ้นมา มันกวัดแกว่งสร้างความเสียหายให้ราชาแห่งผีได้มากเช่นกัน
ราชาแห่งผีนั้นรู้สึกฉุนเฉียวอย่างหนัก จากนั้นเขา ก็ใช้ค้อนขนาดยักษ์ในมือสร้างคลื่นขนาดมหึมาสิ่งนั้นทําให้ทั่วทั้งห้ องโถงสั่นสะเทือน มู่หรงเสี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ ก็ไม่ต่างอะไรไปจากเรือเล็กในท้องทะเล พวกเขาสั่นสะเทือนและปลิวไปมาจาก คลื่นดังกล่าวขณะที่คนอื่น ๆก็กังวลและประหลาดใจมากกับสกิลนี้
ขณะที่การต่อสู้ดําเนินการไปอย่างดุเดือด หัวใจของทุกคนก็เริ่มดิ่งลงอย่างเชื่องช้า ราชาหมาป่าโลหิตได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างมากทั้งมู่หรงเสี่ยวเทียน ดาราดังอื้อเฟิง และคนอื่น ๆ นั้นก็รีบดื่มยาเพิ่มพลังชีวิตออกมากันอย่างพัลวัน แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นกับราชาแห่งผีก็ต้องทําให้พวกเขาต้องประหลาดใจจนถึงกับผงะ ราชาแห่งผีตัว นั้นฟื้นคืนค่าพลังชีวิตของมันกลับมาอัตโนมัติด้วยความเร็วที่น่าทึ่งจนพลังชีวิตของมันเต็ม ทุก ๆ ครั้งที่มันถูกโจมตีจนเกือบตายแต่ภายในไม่กี่วินาที่ค่าพลังชีวิตของมันก็กลับคืนมา
“จะทํายังไงกันดีละที่นี้ ? ” หัวใจของทุก ๆ คนเริ่มวิตก
“ปาฉี ไปทําลายบ่อเลือดของราชาแห่งผีซะ” กวยหลงพูดกับสายฟ้าปาฉีอย่างลับ ๆ เพราะเขานั้นสังเกตการณ์มาเป็นเวลานานมากแล้วเขาพบว่าราชาแห่งผีนั้นมักจะมองไปที่บ่อเลือดเป็นครั้ง เป็นคราวและทุก ๆครั้งที่มันทําเช่นนั้นเลือดของมันก็จะฟื้นคืนก ลับมาและหมอกที่ลอยอยู่ด้านบนของบ่อเลือดนั้นเริ่มก่อตัวหนาขึ้น
“ยอดเยี่ยมมากน้องชาย” ทันใดนั้นสายฟ้าปาฉีก็ตบไปที่ไหล่ของกวยหลงอย่างชื่นชม เธอแอบย่องไปที่บ่อเลือดอย่างลับ ๆ ส่วนราชาแห่งผีนั้นก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะรับมือกับการโจมตีของราชาหมาป่าโลหิตและพวกมู่หรงเสี่ยวเทียน เขาจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของสายฟ้าปาฉีที่ขณะนี้ได้ไปถึงยังบ่อเลือดเป็นที่ เรียบร้อยแล้ว
สายฟ้าปาฉีสูดหายใจเข้าไปลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์จากนั้นเธอก็ยกดาบยักษ์ขึ้นมา ก่อนที่จะตะโกนและฟันลงไปยังบ่อเลือดนั้นอย่างสุดกําลังที่เธอมี